ในชีวิตประจำวัน เจ้าของแมวจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพอาหารของแมว พวกเขาไม่เพียงแต่พอใจกับการจัดหาอาหารแมวและขนมแมวที่วางจำหน่ายทั่วไปให้กับแมวเท่านั้น แต่เจ้าของแมวหลายคนยังทำขนมแมวโฮมเมดหลากหลายชนิดสำหรับแมวของพวกเขาอีกด้วย ขนมโฮมเมดเหล่านี้ไม่เพียงแต่รับประกันความสดใหม่และสุขภาพของส่วนผสมเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับรสชาติและความต้องการทางโภชนาการของแมวได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ขนมแมวโฮมเมดไม่ใช่กระบวนการทำอาหารง่ายๆ จำเป็นต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อช่วยให้แมวได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น พร้อมกับเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยๆ

1. โภชนาการ
แมวเป็นสัตว์กินเนื้ออย่างเคร่งครัด ซึ่งหมายความว่าแหล่งอาหารหลักของพวกมันคือโปรตีนและไขมันจากสัตว์ แมวไม่สามารถสังเคราะห์สารอาหารที่จำเป็นบางชนิดได้ เช่น ทอรีน วิตามินเอ และวิตามินดี ซึ่งต้องได้รับจากอาหารสัตว์ ดังนั้น เมื่อทำขนมแมว จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนมเหล่านั้นมีโปรตีนจากสัตว์ในปริมาณที่เหมาะสม เช่น เนื้อไก่ ปลา หรือเนื้อวัว โปรตีนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้พลังงานแก่แมวเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาสุขภาพกล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ผักอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ แต่แมวหลายตัวกลับไม่สนใจผัก ดังนั้น เจ้าของจึงสามารถผสมผักกับเนื้อสัตว์ที่แมวชื่นชอบเพื่อทำผักบอลได้ ในส่วนของการเลือกส่วนผสม ฟักทอง บรอกโคลี และอกไก่ สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มปริมาณผักที่แมวได้รับ ขนมแมวนี้ไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์เท่านั้น แต่ยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่สมดุล ซึ่งช่วยระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวมของแมว รวมถึงช่วยพัฒนาการมองเห็นและระบบภูมิคุ้มกันของแมวอีกด้วย
2.สนุก
แม้ว่าแมวจะไม่ได้ใส่ใจกับรูปลักษณ์ของอาหารมากเท่ากับมนุษย์ แต่การทำขนมเล่นๆ ก็ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การกินอาหารของแมวและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของพวกมันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแมวที่ไม่ค่อยสนใจอาหาร ขนมขบเคี้ยวที่มีรูปร่างและสีสันหลากหลายอาจช่วยเพิ่มความอยากอาหารของพวกมันได้
เมื่อทำขนมแมว เจ้าของสามารถเลือกพิมพ์ที่น่าสนใจเพื่อทำบิสกิตหรือขนมเนื้อในรูปทรงต่างๆ ได้ เช่น พิมพ์รูปปลา รูปอุ้งเท้าแมว หรือรูปดาว สามารถทำให้ขนมทำเองดูน่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากรูปทรงแล้ว การเปลี่ยนสีสันยังช่วยเพิ่มความสนุกให้กับขนมได้อีกด้วย การเพิ่มส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ฟักทองบดหรือแครอทบดในปริมาณเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ขนมแมวมีสีสันสวยงามได้ ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสนุกในการกินของแมวเท่านั้น แต่ยังทำให้กระบวนการผลิตมีความคิดสร้างสรรค์และน่าพึงพอใจมากขึ้นอีกด้วย
บิสกิตแมวเป็นขนมที่ทำง่ายและสะดวกมาก ในขั้นตอนการผลิต สามารถเพิ่มส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของแมว เช่น ฟักทองบด ตับไก่ผง ฯลฯ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ บิสกิตแมวทำเองไม่เพียงแต่ช่วยดับความอยากอาหารของแมวเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นรางวัลสำหรับการฝึกได้อีกด้วย

วัตถุดิบหลักในการทำบิสกิตแมว ได้แก่ แป้ง เนย และไข่ ขั้นแรก ละลายเนยที่อุณหภูมิห้องให้อ่อนตัวลง จากนั้นผสมแป้งและไข่ให้เข้ากัน แล้วนวดให้เป็นแป้งเนียน เพื่อเพิ่มรสชาติ คุณสามารถเติมส่วนผสมที่แมวชอบลงไปเล็กน้อย เช่น ผงตับไก่หรือฟักทองบดเล็กน้อย นำแป้งไปแช่ตู้เย็นประมาณครึ่งชั่วโมง นำออกจากตู้เย็น รีดเป็นแผ่นบางๆ แล้วใช้พิมพ์กดให้เป็นบิสกิตขนาดเล็กรูปทรงต่างๆ สุดท้าย นำบิสกิตเข้าเตาอบที่อุ่นไว้แล้ว อบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จนกระทั่งบิสกิตสุกและมีสีเหลืองทอง
บิสกิตแมวนี้ไม่เพียงแต่เก็บรักษาง่าย แต่ยังตอบสนองความต้องการในการเคี้ยวของแมวและช่วยดูแลสุขภาพฟันให้แข็งแรงอีกด้วย เมื่อให้อาหาร บิสกิตสามารถใช้เป็นรางวัลสำหรับการฝึกแมวได้ ควรให้อาหารครั้งละเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการให้อาหารมากเกินไป
3. อาหารเปียกเป็นหลัก
บรรพบุรุษของแมวมีต้นกำเนิดมาจากสภาพแวดล้อมแบบทะเลทราย ดังนั้นแมวจึงมักไม่ชอบดื่มน้ำ และปริมาณน้ำที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับอาหาร อาหารแมวแบบเปียกมักมีปริมาณน้ำสูง ซึ่งสามารถช่วยเติมน้ำให้แมวได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ
ในทางตรงกันข้าม อาหารแห้งมีปริมาณน้ำต่ำมาก หากแมวกินอาหารแห้งเป็นหลักเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอและเพิ่มภาระให้กับไต ดังนั้น เมื่อทำขนมแมวแบบโฮมเมด มักจะใช้อาหารเปียกเป็นหลัก เช่น สามารถให้น้ำที่จำเป็นสำหรับแมวได้ นอกจากนี้ ขนมเปียกสำหรับแมวแบบโฮมเมดยังมีรสชาติที่นุ่มและชุ่มฉ่ำกว่า และมักเป็นที่นิยมในหมู่แมวมากกว่า

เมื่อทำอาหารแมวแบบเปียก เจ้าของอาจลองเติมซุปหรือน้ำซุปสูตรดั้งเดิมที่แมวชอบ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำ แต่ยังช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารอีกด้วย หากแมวดื่มน้ำไม่เพียงพอ การให้อาหารเปียกแบบขนมขบเคี้ยวก็เป็นวิธีที่ดีในการช่วยเติมน้ำให้แมวเช่นกัน
การทำขนมแมวโฮมเมดเป็นกิจกรรมที่เปี่ยมด้วยความรักและสร้างสรรค์ ซึ่งไม่เพียงแต่มอบทางเลือกทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพและปลอดภัยให้กับแมวเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและแมวอีกด้วย ในขั้นตอนการทำขนม เจ้าของสามารถปรับสูตรได้อย่างยืดหยุ่นตามรสนิยมและความต้องการทางโภชนาการของแมว เพื่อให้มั่นใจว่าขนมมีความสมดุลทางโภชนาการและอร่อย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขนมแมวโฮมเมดจะมีประโยชน์มากมาย แต่เจ้าของก็ยังคงต้องใส่ใจกับการให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพของแมวจากการรับประทานส่วนผสมบางชนิดมากเกินไป ด้วยการผสมผสานอย่างพอเหมาะและการผลิตอย่างมีหลักการ ขนมแมวโฮมเมดจึงไม่เพียงแต่เป็นจุดเด่นในอาหารของแมวเท่านั้น แต่ยังเป็นวิถีชีวิตที่ใส่ใจสุขภาพของแมวอีกด้วย
เวลาโพสต์: 02 ก.ย. 2567